ในปัจจุบัน การฉีดโบท็อกถูกนำมาใช้เพื่อ ยกกระชับและปรับสมดุลใบหน้า อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยหลักการทำงานของกล้ามเนื้อ 2 กลุ่มหลัก

ได้แก่ กล้ามเนื้อที่ยกใบหน้า กล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง

เมื่อแพทย์ใช้โบท็อกอย่างแม่นยำเพื่อคลายเฉพาะกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง จะช่วยให้กล้ามเนื้อยกสามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดู เรียว ยกกระชับ เหนียง หายไปกรอบหน้าชัดขึ้น และจุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ การผสมยาให้ได้มาตรฐาน

โบท็อกเป็นยาที่อยู่ในรูปแบบผงแห้ง ซึ่งต้องผสมกับน้ำเกลือบริสุทธิ์ในสัดส่วนที่เหมาะสมก่อนนำมาใช้ หากผสมเจือจางเกินไปหรือไม่เท่ากันทุกครั้ง อาจทำให้

ยาออกฤทธิ์ช้าเกินไปหรือเร็วเกินไปกล้ามเนื้อคลายตัวไม่สม่ำเสมอ ระยะเวลาการออกฤทธิ์สั้นลงกว่าปกติ

มากกว่าการลดริ้วรอย คือการปรับสมดุลกล้ามเนื้อเพื่อใบหน้าที่อ่อนเยาว์และเรียวขึ้น หลายคนรู้จักโบท็อก (Botulinu m Toxin) ในฐานะสารที่ช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผากจากการเลิกคิ้ว รอยขมวดคิ้วตรงหว่างคิ้ว รอยจีบหางตาจากการยิ้ม หรือแม้แต่รอยกดบริเวณมุมปากลง.จากการเบะปากโดยไม่รู้ตัว

แต่ในความเป็นจริง โบท็อกสามารถทำได้มากกว่านั้น

ในปัจจุบัน การฉีดโบท็อกถูกนำมาใช้เพื่อ ยกกระชับและปรับสมดุลใบหน้า อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยหลักการทำงานของกล้ามเนื้อ 2 กลุ่มหลัก

ได้แก่ กล้ามเนื้อที่ยกใบหน้า กล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง

เมื่อแพทย์ใช้โบท็อกอย่างแม่นยำเพื่อคลายเฉพาะกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง จะช่วยให้กล้ามเนื้อยกสามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดู เรียว ยกกระชับ เหนียง หายไปกรอบหน้าชัดขึ้น และจุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ การผสมยาให้ได้มาตรฐาน

โบท็อกเป็นยาที่อยู่ในรูปแบบผงแห้ง ซึ่งต้องผสมกับน้ำเกลือบริสุทธิ์ในสัดส่วนที่เหมาะสมก่อนนำมาใช้ หากผสมเจือจางเกินไปหรือไม่เท่ากันทุกครั้ง อาจทำให้

ยาออกฤทธิ์ช้าเกินไปหรือเร็วเกินไปกล้ามเนื้อคลายตัวไม่สม่ำเสมอ ระยะเวลาการออกฤทธิ์สั้นลงกว่าปกติ

การผสมยาที่ได้มาตรฐานจึงเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะทำให้โปรแกรมฉีดโบท็อกสามารถคลายกล้ามเนื้อได้ในระดับที่พอดี

และคงผลลัพธ์ได้นานอย่างเหมาะสม (ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นกับแต่ละบุคคล)

สรุปแล้ว การฉีดโบท็อกที่ดี คือการผสมผสานระหว่างศาสตร์ความงาม ความรู้ทางกายวิภาค ความแม่นยำของเทคนิค และมาตรฐานในการเตรียมยาเพื่อให้ใบหน้าของคุณดูดีอย่างมั่นใจ และปลอดภัยในระยะยาวค่ะ

การออกฤทธิ์ของโบท็อกในการลดริ้วรอยในแต่ละตำแหน่ง

1. ริ้วรอยหน้าผาก (Forehead Lines)

เกิดจากการ เลิกคิ้ว ซ้ำ ๆ ซึ่งทำให้เกิดรอยย่นแนวนอน

กล้ามเนื้อเป้าหมาย: Frontalis

การออกฤทธิ์ของโบท็อก: คลายกล้ามเนื้อหน้าผาก ทำให้รอยย่นจางลง แต่ยังคงสามารถขยับคิ้วได้อย่างเป็นธรรมชาติ (หากฉีดในสัดส่วนที่เหมาะสม)

2. ริ้วรอยหว่างคิ้ว (Glabellar Lines / รอยขมวดคิ้ว)

เกิดจากการ ขมวดคิ้ว ทำให้เกิดรอยย่นเป็นเส้นตั้งตรงระหว่างคิ้ว

กล้ามเนื้อเป้าหมาย: Corrugator, Procerus

การออกฤทธิ์ของโบท็อก: คลายกล้ามเนื้อที่ทำให้คิ้วขมวด ริ้วรอยลึกบริเวณนี้จึงดูตื้นลง และใบหน้าดูไม่เคร่งเครียด

3. รอยย่นหางตา (Crows Feet)

เกิดจากการ ยิ้มหรือหัวเราะ ทำให้เกิดรอยจีบเล็ก ๆ บริเวณหางตา

กล้ามเนื้อเป้าหมาย: Orbicularis oculi (กล้ามเนื้อรอบดวงตา)

การออกฤทธิ์ของโบท็อก: คลายกล้ามเนื้อรอบตาส่วนบนด้านข้าง ทำให้รอยจีบหางตาจางลง ขณะยังคงสามารถยิ้มได้เป็นธรรมชาติ

4. มุมปากตกจากการเบะปาก (Downturned Mouth Corners)

เกิดจากการทำงานมากเกินไปของกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลง

กล้ามเนื้อเป้าหมาย: Depressor Anguli Oris (DAO)

การออกฤทธิ์ของโบท็อก: คลายกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลง ส่งผลให้มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าดูอ่อนโยนและไม่เศร้าหมอง

หมายเหตุ:

ผลของโบท็อกจะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน และชัดเจนที่สุดภายใน 14 วัน

อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน แล้วแต่สภาพผิวและการแสดงสีหน้าของแต่ละคน

การฉีดในแต่ละตำแหน่งควรทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง หรือผิดรูป