ฟิลเลอร์ กับศาสตร์แห่งการชดเชยโครงสร้างใบหน้าที่สูญเสียไปตามวัย

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โครงสร้างของใบหน้าทั้งในระดับกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อนจะ ค่อย ๆ ยุบตัวลงอย่างช้า ๆ แต่ต่อเนื่อง ทำให้เกิดร่องลึกและความแบนลง.ในหลายจุด เช่น: ขมับที่ลึกลง หน้าผากที่แบน ใต้ตาที่ตอบ ร่องแก้มและร่องน้ำหมากที่ลึกขึ้น

ทั้งหมดนี้ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้า ขาดความสดใส และดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์: เติมเต็มด้วยหลักการ ไม่ใช่แค่เติมร่อง

ไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นสารเติมเต็มที่นิยมมากที่สุดในวงการแพทย์ความงาม เพราะปลอดภัย ย่อยสลายได้ และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติหัวใจสำคัญของการฉีดฟิลเลอร์ คือ การวิเคราะห์ใบหน้าอย่างแม่นยำ และวางฟิลเลอร์ในชั้นที่เหมาะสม โดยแนวทางที่ถูกต้องคือ:

1. เติมในชั้นลึกก่อนเสมอ เพราะเป็นชั้นที่รองรับโครงสร้างใบหน้า เช่น กระดูกและไขมันลึก หากชั้นลึกยังยุบตัวแล้วเติมชั้นตื้นก่อน จะทำให้ใบหน้าดูบวมหลอก ย้อย และแก่กว่าเดิม

2. เติมชั้นตื้น (ผิว/ไขมันตื้น) เฉพาะเมื่อต้องการปรับผิวหน้าให้เรียบ หรือเสริมรูปร่างบางจุดเท่านั้น

จึงต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์แพทย์ในการประเมินว่า บริเวณไหนควรเติม แนวรับโครงสร้าง และบริเวณใดควรเติม แนวเสริมความเนียนผิว

3. เลือกชนิดฟิลเลอร์ให้เหมาะกับแต่ละบริเวณ ฟิลเลอร์มีหลายชนิด แตกต่างกันที่ความยืดหยุ่น ความคงรูป และการกระจายตัว แพทย์จะต้องรู้จักและเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม เช่นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ยกตัวได้ดี ใช้เติมโครงสร้างลึก (โหนกแก้ม กรอบหน้า)

ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะกับชั้นผิวบาง (ใต้ตา ริมฝีปาก ร่องเล็ก)

พราะการฉีดฟิลเลอร์ที่ดี

ไม่ใช่การเติมให้เต็ม แต่คือ การวางโครงหน้าให้สมดุลและย้อนวัยอย่างมีชั้นเชิง

เติมโครงหน้า คืนมิติ สู่สมดุลความงามตาม Golden Ratio

การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่แค่การเติมเต็มร่องลึก แต่เป็นศาสตร์ของการปรับสัดส่วนใบหน้า ให้ใกล้เคียง Golden ratio มากที่สุด เพื่อให้ความยาวสมดุลกับความกว้างของใบหน้า และย้ายจุดตกกระทบแสง เพื่อปรับให้หน้าเรียวมีมิติในด้านข้างของใบหน้า ชดเชยส่วนที่ใบหน้าสูญเสียไปตามวัย และ เสริมส่วนที่ช่วยให้ใบหน้าดูโดดเด่น สมดุล และมีมิติ

หลักการสำคัญ:

ฟิลเลอร์ควรเติมในชั้นลึกก่อน เพื่อรองรับโครงสร้าง

เลือกตำแหน่งเสริมให้สัมพันธ์กับ Golden Ratio ซึ่งเป็นสัดส่วนใบหน้าที่ดูลงตัวและสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

ประเมินโครงหน้าคนไข้โดยทั่วไป แบ่งได้ 2 แบบ:

1. ใบหน้าที่มี เนื้อน้อย หรือใบหน้าตอบเห็นโครงกระดูกชัด หน้าดูแข็งขาด volume ทั้งในชั้นกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน ฉีดฟิลเลอร์แล้วผลลัพธ์ชัดเจน ใบหน้าดูละมุน อ่อนเยาว์ มีมิติมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

2. ใบหน้าที่ มีเนื้อเยอะ หรือไขมันแทรกในกล้ามเนื้อใบหน้า ดูเต็มแต่แบนและขาดมิติ ยากต่อการประเมินว่าโครงสร้างลึกยุบลงแค่ไหน เพราะชั้นไขมันพรางไว้ หากฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นหรือในจุดที่ไม่ควร เติมแล้วหน้าจะดูใหญ่ หนัก และแก่กว่าเดิม

> เคสแบบนี้จึงต้องประเมินชั้นลึกอย่างแม่นยำ และใช้เทคนิควางฟิลเลอร์ในจุดรับโครงสร้างจริง ๆ เท่านั้น

การฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้า

1. ฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้สำหรับหน้าผากที่แบน เป็นร่อง หรือขาดความโค้งมน เติมแล้วช่วยให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น หน้า 3 มิติขึ้น ส่งผลถึงความสัมพันธ์กับแนวคิ้วและขมับด้วย

2. ฟิลเลอร์ขมับ เหมาะกับผู้ที่ขมับตอบ คิ้วยกสูง หางตาตก การเติมในจุดนี้ช่วยให้ใบหน้าดูเต็มขึ้นอย่างกลมกลืน และลดความชัดของโครงกระดูกข้างศีรษะ

3. ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ไขใต้ตาลึก ตอบ หรือคล้ำจากโครงสร้าง เติมในชั้นที่เหมาะสมจะช่วยให้หน้าดูสดใสขึ้น ไม่โทรม ไม่เหนื่อยล้า

4. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม (Nasolabial Fold) ต้องพิจารณาร่วมกับโครงสร้างแก้มและ midface บางครั้งต้องเติมจุดรับแรงที่ แก้มส่วนบน ก่อนร่องแก้มจึงจะตื้นอย่างพอดี ไม่บวมล้น

5. ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก (Marionette Line) เติมเพื่อลดความชัดของร่องที่ลากจากมุมปากลงมา หากใช้ถูกเทคนิคสามารถช่วยยกมุมปากให้ดูสดใส ไม่เศร้า

การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ดี ต้องอาศัย 3 องค์ประกอบร่วมกัน

1. ประเมินใบหน้าอย่างแม่นยำในมุม โครงสร้างลึก ไม่ใช่แค่ชั้นผิว

2. เลือกชนิดของฟิลเลอร์ให้เหมาะกับแต่ละชั้นและตำแหน่ง

3. เทคนิควางฟิลเลอร์ในระดับชั้นที่ถูกต้อง (deep to superficial strategy)

เทคนิคเฉพาะของคุณหมอแอน

เติมน้อยแต่แม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยสมดุลและปลอดภัย

ที่ธัญวรินทร์คลินิก การดูแลคนไข้แต่ละท่านคือ การวางแผน ไม่ใช่แค่ การเติม

คุณหมอแอน แพทย์หญิงธัญวรินทร์ โชติชอบประดิษฐ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารและออกตรวจ Full Time ทุกวัน ยึดหลักในการฉีดฟิลเลอร์โดยเริ่มจาก ปริมาณน้อยที่สุดต่อจุด (ไม่เกิน 1-2 ซีซี) เพื่อให้ คนไข้สามารถประเมินผลลัพธ์ได้แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เสี่ยงต่อการเติมเกินพอดี ซึ่งอาจทำให้หน้าบวมหรือไม่เป็นธรรมชาติ และช่วย ควบคุมงบประมาณ ให้คนไข้ได้วางแผนการรักษาต่อเนื่องได้อย่างสบายใจ

หมอเชื่อว่า "ความสวยที่แท้จริง ไม่ใช่การเติมให้มากที่สุด แต่คือการเติมให้ถูกตำแหน่ง ถูกชั้น และถูกจังหวะ"

การค่อย ๆ ปรับรูปหน้าจะให้ผลลัพธ์ที่กลมกลืน ดูละมุน ไม่โป๊ะ และดูดีในแบบที่ยังเป็นตัวเอง